จำหน่ายระเบียบการและใบสมัครทางไปรษณีย์
สมัครทางไปรษณีย์ ตั้งแต่ ๒ มกราคม ๒๕๕๗ ถึง ๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ โดยจะถือวันประทับตราไปรษณีย์ต้นทางเป็นสำคัญ ผู้สมัครต้องชำระเงินค่าสมัครสอบ ค่าอุปกรณ์การสอบ ค่าบริการสถานที่สอบ และค่าจัดส่งเอกสารกลับคืนผู้สมัครสอบ รวมเป็นเงิน ๒๓๐.-บาท โดยธนาณัติสั่งจ่ายในนาม กรมยุทธศึกษาทหารเรือ ตู้ ปณ.๑๑ ปณภ.พุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม ๗๓๑๗๐ (ให้ส่งทางธนาณัติธรรมดา หรือ ธนาณัติด่วนพิเศษเท่านั้น ไม่รับธนาณัติ online)
- สมัครด้วยตนเอง ณ หน่วยรับสมัคร
- ตั้งแต่ ๑๑ – ๑๙ มกราคม ๒๕๕๗ เวลา ๐๙.๐๐ – ๑๕.๐๐ น. ที่สวนกรมหลวงชุมพร (หนองตะเคียน) อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี โดยไม่เว้นวันหยุดราชการ
- ตั้งแต่ ๘ – ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ เวลา ๐๙.๐๐ – ๑๕.๐๐ น. ที่กรมยุทธศึกษาทหารเรือ ตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม โดยไม่เว้นวันหยุดราชการ
การสมัครด้วยตนเองผู้สมัครต้องชำระเงินเป็นค่าสมัครสอบ
ค่าอุปกรณ์การสอบและค่าบริการสถานที่สอบ รวมเป็นเงิน ๒๐๐.-บาท
หลักฐานที่ต้องใช้ในการสมัคร
หลักฐานทั่วไป
1. รูปถ่ายสี หน้าตรง ไม่สวมหมวก ไม่สวมแว่นตา ขนาด ๒ นิ้ว จำนวน ๘ รูป และต้องเป็นรูปถ่าย ที่ถ่ายไว้ในครั้งเดียวกันไม่เกิน ๓ เดือน
2. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน (๑ ฉบับ)
3. สำเนาระเบียนแสดงผลการเรียน (รบ.) ของสถานศึกษาที่แสดงว่าสำเร็จการศึกษาหลักสูตรมัธยมศึกษาตอนปลายหรือกำลังศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖ หรือสำเร็จการศึกษาหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพหรือกำลังศึกษาหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นปีที่ ๓ ของกระทรวงศึกษาธิการ (๑ ฉบับ)
4. สำเนาทะเบียนบ้านฉบับเจ้าบ้าน หรือสำเนาทะเบียนบ้านที่นายทะเบียนรับรองของผู้สมัคร บิดา และมารดา ที่แสดงสัญชาติของผู้ให้กำเนิด (ปู่ – ย่า – ตา – ยาย)
5. ในกรณีที่บิดา หรือมารดาถึงแก่กรรมและไม่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน ให้นำหลักฐาน ใบมรณบัตร หรือหลักฐานอื่นของทางราชการมาประกอบ เพื่อแสดงสัญชาติของบิดาหรือมารดา
6. สำเนาใบสูติบัตรของผู้สมัคร
7. เอกสารการเปลี่ยนชื่อ – ชื่อสกุล (ถ้ามี)
* ในกรณีที่บิดา – มารดา มิได้จดทะเบียนสมรส หรือจดทะเบียนสมรส แต่มารดามิได้เปลี่ยนมาใช้ชื่อสกุลของบิดา ผู้สมัครจะต้องนำทะเบียนการรับรองบุตร หรือหลักฐานที่แสดงว่าเป็นบิดา มารดาที่แท้จริงของผู้สมัครมาแสดง เช่นสูติบัตร
* ในกรณีที่ผู้สมัครเป็นบุตรบุญธรรมของผู้อื่น จะต้องนำสำเนาทะเบียนบ้านของบิดา มารดาผู้ให้กำเนิดที่แท้จริงของผู้สมัครมาแสดง
* ในกรณีที่ผู้สมัครเป็นบุตรของคนไทยพลัดถิ่น ตามพระราชบัญญัติสัญชาติ พ.ศ.๒๕๐๘ แก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ ๕ พ.ศ.๒๕๕๕ จะต้องนำเอกสาร หรือหนังสือรับรองจากทางราชการมาแสดง
* หมายเหตุ ชื่อ ชื่อสกุล ของผู้สมัคร บิดา มารดา ตลอดจนการใช้ตัวสะกด การันต์ และ วันเดือนปีเกิดในเอกสารทุกอย่างจะต้องถูกต้องและตรงกันทุกฉบับ ถ้าไม่ตรงกันจะต้องมีเอกสารรับรองว่าเป็นบุคคลเดียวกัน
หลักฐานเพื่อขอรับสิทธิและคะแนนเพิ่ม
1. เอกสารแสดงว่าผู้สมัครสำเร็จหลักสูตรการฝึกวิชาทหารของหน่วยบัญชาการกำลังสำรอง กองทัพบก ตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการฝึกวิชาทหาร ซึ่งต้องเป็นเอกสารที่ออกโดย ศูนย์การกำลังสำรอง หน่วยบัญชาการกำลังสำรอง หรือศูนย์การฝึกนักศึกษาวิชาทหาร มณฑลทหารบก หรือหน่วยฝึกนักศึกษาวิชาทหาร จังหวัดทหารบกเท่านั้น (ผนวก ข – ๑) โดยจะได้รับสิทธิ์คะแนนเพิ่มดังนี้
สำเร็จหลักสูตร ชั้นปีที่ ๑ ได้คะแนนเพิ่มร้อยละ ๓ ของคะแนนรวมทั้งสิ้น
สำเร็จหลักสูตร ชั้นปีที่ ๒ ได้คะแนนเพิ่มร้อยละ ๔ ของคะแนนรวมทั้งสิ้น
สำเร็จหลักสูตร ชั้นปีที่ ๓ ได้คะแนนเพิ่มร้อยละ ๕ ของคะแนนรวมทั้งสิ้น
สำเร็จหลักสูตร ชั้นปีที่ ๔ ได้คะแนนเพิ่มร้อยละ ๖ ของคะแนนรวมทั้งสิ้น
สำเร็จหลักสูตร ชั้นปีที่ ๕ ได้คะแนนเพิ่มร้อยละ ๗ ของคะแนนรวมทั้งสิ้น
หมายเหตุ : กรณีที่หน่วยฝึกทหารได้เก็บสำเนาใบสำคัญทหารกองเกิน (สด.๙) ฉบับจริงไว้ให้ผู้สมัครไป ขอถ่ายสำเนา (สด.๙) แล้วให้หน่วยฝึกประทับตรารับรองว่า “หลักฐานฉบับจริง (สด.๙) ได้นำขึ้นทะเบียนนำปลดเรียบร้อยแล้ว” จึงจะมีสิทธิได้รับคะแนนเพิ่ม
2. เอกสารแสดงว่าผู้สมัครเป็นทหารกองประจำการ สังกัดกองทัพเรือ หรือทหารกองหนุนสังกัดกองทัพเรือที่มีอายุ ๑๘ – ๒๔ ปี คือสมุดประจำตัวทหารกองหนุนประเภทที่ ๑ หรือบัตรอนุญาตใช้แทนหนังสือสำคัญ (กองหนุน) ชั่วคราวหรือหนังสือรับรองการเป็นทหารกองประจำการ อายุ ๑๘ – ๒๔ ปี และแบบประเมินผลทหารกองประจำการ หรือทหารกองหนุน อายุ ๑๘ – ๒๔ ปี
โดยจะได้รับคะแนนเพิ่มดังนี้
2.1 ผ่านการเป็นทหารกองประจำการ ๖ เดือน ได้คะแนนเพิ่มร้อยละ ๒ ของคะแนนรวมทั้งสิ้น
2.2 ผ่านการเป็นทหารกองประจำการ ๑ ปี ได้คะแนนเพิ่มร้อยละ ๓ ของคะแนนรวมทั้งสิ้น
2.3 ผ่านการเป็นทหารกองประจำการ ๒ ปี ได้คะแนนเพิ่มร้อยละ ๔ ของคะแนนรวมทั้งสิ้น
3. เอกสารแสดงว่าผู้สมัครเป็นบุตรของทหาร ข้าราชการ หรือลูกจ้าง ซึ่งได้กระทำหน้าที่ในระหว่างเวลาที่มีการรบหรือสงคราม หรือมีการปราบปรามการจลาจล หรือในระหว่างที่มีพระบรมราชโองการ ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินซึ่งมีสิทธิ์ได้นับเวลาราชการเป็นทวีคูณตามกฎหมายว่าด้วยบำเหน็จบำนาญข้าราชการ โดยมีผู้บังคับบัญชาชั้นผู้บังคับกองพัน ผู้บังคับการเรือชั้น ๑ ผู้บังคับฝูงบิน หรือนายตำรวจตั้งแต่รองผู้การ ของหน่วยที่เก็บรักษาประวัติเป็นผู้รับรอง ได้คะแนนเพิ่มร้อยละ ๕ ของคะแนนรวมทั้งสิ้น
4. เอกสารที่แสดงว่าผู้สมัครเป็นบุตรของทหาร ข้าราชการ หรือลูกจ้าง ซึ่งต้องประสบอันตรายถึงทุพพลภาพในขณะปฏิบัติราชการในหน้าที่ หรือถูกประทุษร้าย เพราะเหตุกระทำการตามหน้าที่ หรือต้องบาดเจ็บถึงตายเพราะเหตุนั้น ซึ่งได้รับบำเหน็จบำนาญพิเศษตามกฎหมายว่าด้วยบำเหน็จบำนาญข้าราชการ หรือได้รับเงินค่าทำขวัญตามข้อบังคับกระทรวงกลาโหม ว่าด้วยคนงาน หรือบุตรของผู้ที่ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีศักดิ์รามาธิบดี เหรียญดุษฎีมาลา เข็มกล้าหาญ หรือเหรียญกล้าหาญ ได้คะแนนเพิ่มร้อยละ ๑๐ ของคะแนนรวมทั้งสิ้น
เอกสารรับรองความสามารถทางการกีฬา (สำเนา ๒ ชุด)
สำหรับนักกีฬาที่แสดงว่าเป็นหรือ เคยเป็นนักกีฬาตัวแทนเข้าร่วมการแข่งขัน ทีมชาติ กีฬาแห่งชาติ เยาวชนทีมชาติ เยาวชนแห่งชาติ และกีฬาระหว่างโรงเรียน สำเนา ๑ ชุด เพื่อขอรับสิทธิ์เข้าทดสอบ (ถ้ามี) โดย ทร.จะใช้เป็นข้อมูลประกอบการคัดเลือกเข้าเป็นนักกีฬาบางประเภทของ ทร.
ผู้ประสงค์จะสมัครสอบเข้าเป็นนักเรียนจ่าทหารเรือ ปีการศึกษา ๒๕๕๗
ให้ดำเนินการ ดังนี้
1. ศึกษาระเบียบการและวิธีสมัครเข้าเป็นนักเรียนจ่าทหารเรือให้เข้าใจ
2. วิธีการสมัคร สามารถสมัครได้ ๒ วิธี ดังนี้
2.1 สมัครทางไปรษณีย์
2.1.1 เข้าเว็บไซต์กรมยุทธศึกษาทหารเรือ ที่ www.navedu.navy.mi.th
2.1.2 เลือกหัวข้อ “ระบบรับสมัครนักเรียนจ่าทหารเรือ ประจำปีการศึกษา ๒๕๕๗”
2.1.3 เลือกหัวข้อ “สมัครสอบ”
2.1.4 กรอกรหัสระเบียบการรับสมัครและหมายเลขประจำตัวประชาชนเพื่อเข้าสู่ระบบการสมัครสอบ
2.1.5 กรอกรายละเอียดการสมัครตามแบบฟอร์มให้ครบถ้วน
2.1.6 กดบันทึกเพื่อยืนยันการรับสมัคร พิมพ์ใบสมัครและลงลายมือชื่อ ส่งมาพร้อมกับเอกสารหลักฐานการสมัครทางไปรษณีย์
2.1.7 หากต้องการตรวจสอบและแก้ไขข้อมูลการสมัคร ให้กรอกรหัสระเบียบการรับสมัครและหมายเลขประจำตัวประชาชน เพื่อทำการแก้ไขและพิมพ์ใบสมัคร
2.1.8 จัดเอกสารต่าง ๆ ตามข้อ ๓ พร้อมใบสมัครและธนาณัติค่าสมัครสอบ ค่าอุปกรณ์การสอบ ค่าบริการสถานที่สอบ และค่าดำเนินการ จำนวน ๒๓๐.-บาท (สองร้อยสามสิบบาทถ้วน) สั่งจ่ายในนาม กรมยุทธศึกษาทหารเรือ ตู้ ปณ.๑๑ ปณภ.พุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม ๗๓๑๗๐ ใส่ลงในซองสำหรับส่งทางไปรษณีย์จ่าหน้าซองถึง กรมยุทธศึกษาทหารเรือ ตู้ ปณ.๑๑ ปณภ.พุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม ๗๓๑๗๐ (ให้ส่งทางธนาณัติธรรมดาหรือธนาณัติด่วนพิเศษเท่านั้น ไม่รับธนาณัติ online) กำหนดส่งได้ ตั้งแต่วันที่ ๒ มกราคม ๒๕๕๗ จนถึงวันที่ ๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ โดยถือวันที่ประทับตราไปรษณีย์ต้นทางเป็นสำคัญ
2.1.9 การตอบรับการสมัครเข้าเป็นนักเรียนจ่าทหารเรือ เมื่อกรมยุทธศึกษาทหารเรือได้รับเอกสารหลักฐานการสมัครและตรวจสอบเอกสารการสมัครในเบื้องต้นแล้ว จะตอบรับการสมัครเข้าเป็นนักเรียนจ่าทหารเรือของผู้สมัคร โดยจัดส่งเอกสารตอบรับการสมัครให้ดังนี้
2.1.9.1 บัตรประจำตัวสอบ
2.1.9.2 ใบเสร็จรับเงินค่าสมัครสอบ ค่าอุปกรณ์การสอบ และค่าบริการสถานที่สอบ ใส่ในซองตอบรับการสมัครเข้าเป็นนักเรียนจ่าทหารเรือ ส่งกลับมาให้ผู้สมัครตามที่อยู่ที่ปรากฏอยู่ในใบสมัคร (ที่อยู่ปัจจุบัน) โดยผู้สมัครจะต้องเขียนชื่อ ชื่อสกุล ที่อยู่ให้ชัดเจน เพื่อสะดวกในการจัดส่ง
*หมายเหตุ ผู้ที่สมัครทางไปรษณีย์ จะต้องเดินทางมาสแกนลายนิ้วมือตามวันเวลาที่กำหนด พร้อมนำระเบียบการมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ หากผู้สมัครทางไปรษณีย์ ไม่มาสแกนลายนิ้วมือ จะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าสอบและผู้สมัครที่ไม่ได้รับเอกสารตอบรับการสมัครเข้าเป็นนักเรียนจ่าทหารเรือ ปีการศึกษา ๒๕๕๗ ภายใน ๓ สัปดาห์หลังจากส่งใบสมัคร ให้ติดต่อสอบถามที่ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ โทร. ๐ ๒๘๘๙ ๓๙๒๒, ๐ ๒๔๗๕ ๓๖๖๓ – ๔ และ ๐ ๒๔๗๕ ๓๖๔๓
2.2 สมัครด้วยตนเอง
2.2.1 เข้าเว็บไซต์กรมยุทธศึกษาทหารเรือ ที่ www.navedu.navy.mi.th
2.2.2 เลือกหัวข้อ “ระบบรับสมัครนักเรียนจ่าทหารเรือ ประจำปีการศึกษา 2557”
2.2.3 เลือกหัวข้อ “สมัครสอบ”
2.2.4 กรอกรหัสระเบียบการและหมายเลขประจำตัวประชาชนเพื่อเข้าสู่ระบบการสมัครสอบ
2.2.5 กรอกรายละเอียดการสมัครตามแบบฟอร์มให้ครบถ้วน
2.2.6 กดบันทึกเพื่อยืนยันการรับสมัคร พิมพ์ใบสมัครและลงลายมือชื่อ นำใบสมัครพร้อมเอกสารประกอบการสมัคร มาสมัครได้ด้วยตนเอง ณ หน่วยรับสมัคร ดังนี้
2.2.6.1 ที่สวนกรมหลวงชุมพร (หนองตะเคียน) อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ตั้งแต่ 11 – 19 มกราคม 2557 เวลา 09.00 – 15.00 น. โดยไม่เว้นวันหยุดราชการ
2.2.6.2 ที่กรมยุทธศึกษาทหารเรือ ตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม ตั้งแต่ 8 – 23 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา 09.00 – 15.00 น. โดยไม่เว้นวันหยุดราชการ
การสมัครด้วยตนเองผู้สมัครต้องชำระเงินเป็นค่าสมัครสอบ ค่าอุปกรณ์การสอบ และค่าบริการสถานที่สอบ รวมเป็นเงิน 200.-บาท ผู้สมัครจะต้องทำการสแกนลายนิ้วมือ ณ หน่วยรับสมัคร มิฉะนั้นจะถือว่ายังไม่ครบขั้นตอนการรับสมัคร
2.2.7 หากต้องการตรวจสอบและแก้ไขข้อมูลการสมัคร ให้กรอกหมายเลขประจำตัวประชาชนและเลขรหัสการสมัครสอบที่ระบบกำหนดให้
3. เตรียมเอกสารหลักฐานประกอบการสมัครดังนี้
3.1 รูปถ่ายสี หน้าตรง ไม่สวมหมวก ไม่สวมแว่นตา ขนาด 2 นิ้ว จำนวน 8 รูป และต้องเป็นรูปถ่ายที่ถ่ายไว้ในครั้งเดียวกันไม่เกิน 3 เดือน และห้ามใช้รูปถ่ายจากเครื่องสำเนาเอกสาร โดยปฏิบัติ ดังนี้
3.1.1 ติดรูปในใบสมัครเข้าเป็นนักเรียนจ่าทหารเรือ จำนวน 1 รูป
3.1.2 ส่งรูปถ่ายมาพร้อมเอกสารการรับสมัคร จำนวน 7 รูป โดยจะต้องเขียนชื่อ – ชื่อสกุล และอายุหลังรูปถ่ายนั้นให้ชัดเจน
3.2 สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนทั้งด้านหน้าและด้านหลัง จำนวน 1 ฉบับ
3.3 สำเนาระเบียนแสดงผลการเรียน (รบ.) ของสถานศึกษาที่แสดงว่าสำเร็จการศึกษาหลักสูตรมัธยมศึกษาตอนปลาย หรือกำลังศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือสำเร็จการศึกษาหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ หรือกำลังศึกษาหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นปีที่ 3 ของกระทรวงศึกษาธิการ อย่างใดอย่างหนึ่ง จำนวน 1 ฉบับ
3.4 สำเนาทะเบียนบ้านฉบับเจ้าบ้าน หรือสำเนาทะเบียนบ้านที่นายทะเบียนรับรองของผู้สมัคร บิดา และมารดา ที่แสดงสัญชาติของผู้ให้กำเนิด (ปู่ – ย่า – ตา – ยาย)
3.5 ในกรณีที่บิดา หรือมารดาถึงแก่กรรมและไม่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน ให้นำหลักฐานใบมรณบัตร หรือหลักฐานอื่นของทางราชการมาประกอบ เพื่อแสดงสัญชาติของบิดาหรือมารดา
3.6 สำเนาใบสูติบัตรของผู้สมัคร
3.7 สำเนาเอกสารอื่น ๆ ถ้ามี เช่น สำเนาใบเปลี่ยนชื่อ ชื่อสกุล หรือหลักฐานอื่น ๆ ของทางราชการ
3.8 หลักฐานเพื่อขอรับคะแนนเพิ่ม ต้องเป็นเอกสารฉบับจริงเท่านั้น ดังนี้
3.8.1 เอกสารรับรองการฝึกวิชาทหาร ตัวอย่างตามผนวก ข – 1
3.8.2 เอกสารแสดงว่า บิดา มารดา ได้รับเหรียญกล้าหาญ เหรียญชัยสมรภูมิ เหรียญราชการชายแดน เหรียญพิทักษ์เสรีชน บัตรผ่านศึก หรือราชการทวีคูณ ตัวอย่างตามผนวก ข – 4
3.9 สำเนาเอกสารรับรองความสามารถทางการกีฬาที่แสดงว่าเป็นหรือเคยเป็นนักกีฬาตัวแทนเข้าร่วมการแข่งขัน ทีมชาติ กีฬาแห่งชาติ เยาวชนทีมชาติ เยาวชนแห่งชาติ และกีฬาระหว่างโรงเรียน จำนวน 1 ฉบับ
4. เอกสาร ตามข้อ 3.2 – 3.9 นั้น
ผู้สมัครจะต้องรับรองความถูกต้องตรงกับต้นฉบับ โดยเขียนข้อความต่อไปนี้ที่ด้านมุมบนขวามือของเอกสารแต่ละฉบับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น